&lt;h2&gt;&amp;nbsp;&lt;/h2&gt;
&lt;h2&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ U = U&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h2&gt;
&lt;hr /&gt;
&lt;h3&gt;&amp;nbsp;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;U=U คืออะไร&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;color: #99ccff;&quot;&gt;U=U ย่อมาจาก Undetectable = Untransmittable คือ ตรวจไม่เจอ =&amp;nbsp; ไม่เเพร่เชื้อ ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้กินยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ไม่สามารถตรวจพบเชื้อในเลือดได้ คนเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเเพร่เชื้อเอชไอวีได้&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;คนไข้ที่มีเชื้อ HIV ที่มีสถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load) สามารถส่งต่อเชื้อ HIV ได้ไหม?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;ไม่ได้ คนไข้ HIV ที่รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส (Antiretroviral therapy: ART) ที่มีสถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load) มาแล้วอย่างน้อยหกเดือนมีความเสี่ยงน้อยแบบไม่ต้องกังวลว่าจะส่งต่อเชื้อให้คู่นอน ที่ว่าไม่ต้องกังวลหมายความว่าการแพร่เชื้อมีโอกาสน้อยจนไม่ต้องเอามาพิจารณา ไม่ควรค่าสนใจ แพทย์ด้าน HIV และผู้ให้ความรู้ทางสุขภาพให้คำจำกัดความของโอกาสการส่งต่อเชื้อเวลาพูดถึงคนไข้ประเภทนี้ว่า: &amp;ldquo;ติดต่อไม่ได้&amp;rdquo; &amp;ldquo;ไม่มีการติดต่อแล้ว&amp;rdquo;&amp;nbsp; &amp;ldquo;ความเสี่ยงเท่ากับศูนย์&amp;rdquo; &amp;ldquo;ไม่มีโอกาสการติด&amp;rdquo; &amp;ldquo;ไม่ส่งต่อ&amp;rdquo; และ &amp;ldquo;ส่งต่อไม่ได้&amp;rdquo;&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;สถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load) คืออะไร และการควบคุมปริมาณเชื้อไวรัส &quot;Viral load suppression&quot; คืออะไร?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;ปริมาณเชื้อในเลือด (Viral load) หมายความว่าปริมาณ HIV ในเลือดที่ตรวจจากตัวอย่างเลือดของคนไข้ที่มีเชื้อ HIV โอกาสส่งต่อเชื้อจะมากขึ้นตามปริมาณไวรัลโหลด ทั้งสถานะ &amp;ldquo;ตรวจไม่เจอ (Undetectable)&amp;rdquo; และ &amp;ldquo;ควบคุมปริมาณไวรัส (Viral load suppression)&amp;rdquo; นั้นไม่ต่างกันและมักใช้ผสม ๆ กัน โดยชี้ว่าปริมาณไวรัสอยู่ในระดับน้อยมาก&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;สถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load): การรักษาด้วยยาต้านไวรัส (ART) ช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสให้ต่ำมาก (มักจะน้อยกว่า 40 ตัว/มล. ขึ้นอยู่กับการตรวจ) จนไม่สามารถตรวจเจอได้ 2 การที่คนไข้มีสถานะ &amp;ldquo;ตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load)&amp;rdquo; คือการป้องกันไม่ให้ HIV แพร่ไปผู้อื่นขณะเดียวกันก็ช่วยให้คนไข้ HIV มีสุขภาพที่ดีขึ้น 1 ไวรัสในร่างกายไม่ได้หายไปทั้งหมด ต้องรับประทานยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาสถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load)&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;color: #99ccff;&quot;&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400;&quot;&gt;การควบคุมปริมาณเชื้อไวรัส &quot;Viral load suppression&quot;: เมื่อยาต้านไวรัส (ART) ควบคุมหรือลดปริมาณปริมาณไวรัส (Viral load) เหลือ 200 ตัว/มล. ลงไปเรียกว่า &quot;ยับยั้งไวรัส (Virally suppressed)&quot; การยับยั้งไวรัสจะป้องกันการติดต่อของ HIV ขณะเดียวกันก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้น 1 งานวิจัยชี้ว่าเมื่อมีสถานะการยับยั้งไวรัสนี้ คนไข้จะไม่สามารถส่งต่อเชื้อให้คู่นอนได้ โดยต้องรับประทานยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่งเพื่อให้ยังยั้งไวรัสได้ต่อไป&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400;&quot;&gt;ด้วยความตั้งใจของโครงการ U=U คำว่า &quot;ตรวจไม่เจอ (Undetectable)&quot; จะใช้ในความหมายเดียวกับคำว่า &quot;ยับยั้งไวรัส (Virally suppressed)&quot;&lt;/span&gt;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;แล้วอะไรคือข้อพิสูจน์?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;ข้อสรุปนี้มีพื้นฐานมาจากโลกความเป็นจริงและงานวิจัยต่าง ๆ อย่าง PARTNER, HPTN 052, Opposites Attract และ Swiss Statement 3-11 ในงานวิจัยไม่นานมานี้ชื่อ PARTNER จากตัวอย่างการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางระหว่างคนไข้ HIV ที่มีสถานะตรวจไม่พบเชื้อกับคู่นอนที่ไม่มีเชื้อ พบว่ามีการส่งต่อเชื้อเป็นศูนย์จากทั้งหมด 58,000 ตัวอย่าง ทั้งนี้ตั้งแต่มีการรักษาแบบผสมผสานมา ยังไม่มีการแจ้งว่ามีคนไข้ที่มีสถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load) ส่งต่อเชื้อ HIV ทางเพศสัมพันธ์&lt;/span&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400;&quot;&gt;&lt;br /&gt;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;ความเสี่ยงเป็นศูนย์เลยใช่ไหม?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;ถ้านับตามความเป็นจริงก็ถูกแล้ว ความเสี่ยงเป็นศูนย์ ในทางทฤษฎี ความเสี่ยงก็ใกล้เคียงกับศูนย์มาก ๆ ศูนย์เศษ ๆ งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปนั้นจะไม่ให้ค่าความเสี่ยงเท่ากับศูนย์อยู่แล้ว แต่ความเสี่ยงนั้นก็ใกล้เคียงศูนย์ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสถิติ นักวิจัยเห็นพ้องว่าโอกาสในการส่งต่อเชื้อ HIV ในกรณีนี้ไม่เท่ากับศูนย์ก็ใกล้ศูนย์มาก คนไข้ HIV ที่มีสถานะ Undetectable viral load จึงถือว่า &amp;ldquo;ไม่ก่อให้เกิดการส่งต่อเชื้อ (Not infectious)&amp;rdquo;&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;ทำไมมีบางกลุ่มบอกว่าสถานะตรวจไม่เจอเชื้อไวรัสในเลือด (Undetectable viral load) ลดความเสี่ยงได้ 93-96% เท่านั้น?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;ก็คือความเข้าใจผิดจากที่มาจากงานวิจัย HPTN 052 ที่แพร่หลาย งานวิจัยนี้พิจารณาโอกาสในการส่งต่อเชื้อนับจากวันแรกที่เริ่มการรักษา ที่ความเสี่ยงลดแค่ 96% (ผลระหว่างการวิจัย) และ 93% (ผลสุดท้าย) นั้นเป็นเพราะการส่งต่อเชื้อก่อนเริ่มการรักษา และการรักษาไม่ทำงานตามปกติสำหรับคนไข้ส่วนหนึ่ง ถ้าแค่ปัจจัยในการส่งต่อเชื้อหลังหกเดือนแรกของการรักษาได้รับการพิจารณา ผลการลดความเสี่ยงก็จะเป็น 100% โดยมีโอกาสส่งต่อเชื้อเป็นศูนย์&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;&amp;lsquo;การรักษาเพื่อป้องกัน (Treatment as Prevention)&amp;rsquo; หมายความว่าอย่างไร?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;Treatment as prevention (TasP) หมายถึงวิธีการป้องกันการติดต่อของ HIV ใด ๆ ที่ใช้ยาต้านไวรัสเพื่อลดโอกาสการส่งต่อเชื้อให้กับคู่นอน ผู้ที่ใช้เข็มร่วมกัน หรือการติดต่อระหว่างคลอด ยาต้านจะช่วยลดปริมาณไวรัสในเลือด อสุจิ ของเหลวจากช่องคลอดและทวารหนักให้ปริมาณต่ำมาก ๆ ซึ่งจะลดโอกาสการส่งต่อเชื้อ HIV นั่นเอง 15 เมื่อไวรัสลดระดับถึงขั้นตรวจจับไม่ได้ โอกาสที่จะเกิดการติดต่อคือศูนย์เศษ ๆ&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400;&quot;&gt;&amp;nbsp;&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;h3&gt;&lt;span style=&quot;color: #ff99cc;&quot;&gt;&lt;strong&gt;ทุกคนที่รับการรักษา HIV จะตรวจจับเชื้อไม่ได้ (Undetectable) ในที่สุดและคงสถานะได้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่?&lt;/strong&gt;&lt;/span&gt;&lt;/h3&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&lt;span style=&quot;font-weight: 400; color: #99ccff;&quot;&gt;เกือบทุกคนที่รับการรักษาโดยการรับประทานยาต้านไวรัส (ART) เห็นผลในหกเดือน ประมาณหนึ่งในหกของเท่านั้นที่ต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการหาวิธีรักษาที่เหมาะสมเพราะอาการต้านยาและปัญหาความสม่ำเสมอในการทานยา การยึดตามแผนการรับประทานยาและการติดตาม Viral load มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเพื่อคงสถานะไม่พบเชื้อ (Undetectable viral load) คนไข้ที่รักษาสถานะไม่พบเชื้อได้เป็นปีหรือมากกว่าที่ปฎิบัติตามแผนการรักษาได้ดีเยี่ยมนั้นมีโอกาสน้อยมากที่ไวรัสจะเพิ่มกลับมา หรือที่เรียกว่า &amp;lsquo;การรักษาล้มเหลว (Treatment หรือ virological failure)&amp;rsquo; การรักษาล้มเหลวหลังการยับยั้งไวรัสพบได้ไม่บ่อยและมักเป็นผลจากการไม่ปฎิบัติตามแผนการรัก&lt;/span&gt;&lt;/p&gt;
&lt;p&gt;&amp;nbsp;&lt;/p&gt;

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ U=U

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ U=U

WHAT ELSE DO YOU NEED TO KNOW