คันน้องสาว ทำไงดี จะเป็นโรคหรือเปล่า ? ดูสาเหตุ การตรวจ และการดูแลรักษา | PULSE CLINIC - Asia's Leading Sexual Healthcare Network.

คันน้องสาว ทำไงดี จะเป็นโรคหรือเปล่า ? ดูสาเหตุ การตรวจ และการดูแลรักษา

466

ไม่ดีแน่ ถ้าคุณคันน้องสาว มันอาจจะเกิดการติดเชื้อก็ได้ ทำไงดี จะเป็นโรคหรือเปล่า ? มาดูสาเหตุ การตรวจ และการดูแลรักษา ปรึกษา พัลซ์ คลินิก

คันน้องสาว ทำไงดี จะเป็นโรคหรือเปล่า ? ดูสาเหตุ การตรวจ และการดูแลรักษา

คันน้องสาว ทำไงดี ถ้าคันจิมิ จะเป็นโรคหรือเปล่า ?


คุณผู้หญิงโปรดทราบ!! คันน้องสาว ไม่ใช่เรื่องตลก นี่ถือเป็นปัญหาหนักใจของสาว ๆ หลายคน ด้วยอาการคันน้องสาวที่สร้างความรำคาญอย่างมาก ในการใช้ชีวิตประจำวัน สร้างความไม่มั่นใจ บางครั้งจะไปหาหมอหรือไปซื้อยาก็เขินอาย ไม่มั่นใจว่าควรจะกินยาหรือใช้ยาอะไรดี ร้ายแรงกว่านั้นอาจจะส่งผลไปถึงคู่นอนด้วยก็ได้ แต่ว่าปัญหาเหล่านี้ เราสามารถดูแลมันได้นะ มันก็อาจจะเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุ มาตรวจกันดีกว่า และมันอาจจะเป็นภัยเงียบของโรคร้ายอื่น ๆ อีกด้วย ปล่อยไว้ไม่ได้ พัลซ์ คลินิก ยินดีดูแลคุณ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ info.bkk@pulse-clinic.com หรือคุยกับเราได้ที่ช่องทางเหล่านี้

 +66 65 237 1936    @PULSEClinic   PulseClinic

 

 

คันน้องสาว จิมิแสบ ๆ คัน ๆ มันเกิดจากอะไร?


 

 

คันน้องสาว คันจิมิแบบนี้มันสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อรา เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อจากโรคทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงพฤติกรรรมในชีวิตประจำวันของสาว ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการคันได้ด้วย มาดูกันเลย ว่าเป็นยังไงกันแน่

 

 

เกิดจากการติดเชื้อรา


 

 

  • คันปากช่องคลอดและอาการคันภายใน อาจเกิดจากเชื้อรา หรือ พยาธิ มักจะพบได้บ่อย ๆ จนส่งผลให้เกิดอาการคัน แสบร้อน ไปจนถึงอาจมีตกขาวเป็นก้อน ๆ ไหลออกมาด้วย
  • คันอวัยเพศหญิง ตรงขนบริเวณภายนอก อาจเป็นเพราะ หิด, โลน

 

เกิดจากการใช้สารเคมี


 

 

  • หากคุณใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ที่ส่วนผสมของน้ำหอมหรือการใช้น้ำยาสมุนไพรสวนล้างช่องคลอดหรือล้างภายนอก บอกเลยว่าต้องหยุด เราขอแนะนำให้คุณใช้น้ำเปล่า เพื่อล้างทำความสะอาดก็พอ ไม่จำเป็นต้องสวนล้างเข้าไปในช่องคลอดเลย แค่น้ำเปล่าเท่านั้นนะจ้ะ
  • ใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน ๆ นั่นเพราะมันจะเข้าไปทำลายแบคทีเรียชนิดที่ดี ที่สามารถช่วยควบคุมจำนวนของเชื้อราในช่องคลอดของคุณ

 

เกิดจากการโกนขนจุดซ่อนเร้น


 

 

หากสาว ๆ รู้สึกคัน ๆ แสบ ๆ แบบว่าคันอวัยเพศหญิง บริเวณภายนอก เกิดจากการโกนบริเวณจุดซ้อนเร้น สาเหตุนี้ก็อาจทำให้รู้สึกคันน้องสาว คันอวัยเพศหญิง ตรงขน เมื่อขนเริ่มงอกใหม่อีกครั้ง บอกเลยว่าอาหารคันแบบนี้ แบบอยากกรี๊ดออกมา หรือสาว ๆ บางคนอาจเกิดอาการคันอย่างรุนแรงหลังโกนขนออก บอกเลยว่าควรปรับวิธีใหม่ ลองเป็นการ ตัด เล็ม หรือ แวกซ์ขนแทน เราว่ามันก็อาจจะบรรเทาได้นะ

 

เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์


 


ถ้าเธอมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันเลย มันเสี่ยงมากนะ อาจเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคพยาธิในช่องคลอด, หนองในแท้, หนองในเทียม, หูด หรือเริมที่อวัยวะเพศ เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้มันอาจทำให้คันจิมิแบบสุด อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวสีเหลือง หรือ ตกขาวสีเขียว รู้สึกปวดแสบเวลาฉี่ หรือฉี่ออกมาแล้วรู้สึกทรมาน รู้สึกเจ็บ ๆ แสบ ๆ เวลามีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

 

เกิดจากโรคพยาธิในช่องคลอด


 


พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) คือภาวะติดเชื้อปรสิตที่จากการมีเพศสัมพันธ์ จนทำให้คันน้องสาว จิมิของคุณอาจจะติดเชื้อได้ ทั้งยังทำให้ตกขาวสีเขียวและเป็นฟอง ปวดเจ็บแสบขณะปัสสาวะ แพทย์จะให้ทานยาปฏิชีวนะจนกว่าจะหายดี แต่สาว ๆ ต้องระวังให้ดี เพราะว่าอาการเหล่านี้อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ แม้ว่าคุณรักษาหายไปแล้ว


เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย (BV: Bacteria Vaginosis)



 

อาการคันน้องสาวประเภทนี้ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดโรคบางชนิดในช่องคลอด แล้วแบคทีเรียเหล่านั้นเจริญเติบโตมากเกินไป จนทำให้เกิดความไม่สมดุลภายในช่องคลอด จนทำให้เกิดอาการคัน หากเกิดการติดเชื้อลุกลาม จะส่งผลให้สี และกลิ่นของตกขาวยังเปลี่ยนไปอีกด้วย หากคุณกังวลใจหรือสงสัยว่าจะเกิดอาการ สามารถตรวจได้ด้วย PCR 28 หรือ PCR 14 ที่ช่วยตรวจหาเชื้อได้ ตรวจแล้วจะได้สบายใจ ถ้าติดเชื้อหรือเกิดโรค ก็จะได้รักษาทันที

 

แล้วตรวจด้วย PCR 28 ดีอย่างไร?


 

 

หากคุณเกิดการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเกิดจากการติดเชื้อข้างต้น หรือเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็สามารถเข้ามารับการตรวจโรคได้ ซึ่งการตรวจ PCR 28 เป็นเทคนิคโมเลกุลล้ำนำสมัยที่นำมาใช้ตรวจจับหาเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรีย ตรวจหาเชื้อจากตัวอย่างที่เก็บมา ไม่ว่าจะเป็นเลือด, ของเหลวต่าง ๆ จากร่างกาย หรือเนื้อเยื่อได้ วิธีการนี้จะตรวจหาจาก DNA (สารพันธุกรรม) ของไวรัสหรือแบคทีเรียเลยโดยตรง เป็นเทคนิคที่แนะนำในการตรวจหาการติดเชื้อได้หลายชนิด ทั้งการตรวจหาเชื้อหนองในแท้-หนองในเทียม, Ureaplasma, Mycoplasma, การตรวจหาพยาธิ (Trichomonas) และอื่น ๆ โดยที่มีทั้งค่าความจำเพาะ (สูงกว่า 99.5%!) และความแม่นยำสูงมากกว่าวิธีการเพาะเชื้อแบบเก่า ตรวจง่าย รู้ผลเร็ว การตรวจเทคนิคนี้ทางปัสสาวะ (ไม่รู้สึกเจ็บเลย แค่ฉี่เท่านั้น) หรือทางช่องปัสสาวะเนื่องจากมีความแม่นยำสูงกว่ามาก ตรวจได้แม้เชื้อจะยังมีชีวิตอยู่หรือเชื้อตายไปแล้วก็ตาม!

 

สำหรับ PCR 14 เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเช่นกัน



 

เราขอแนะนำอีกทางเลือกที่ช่วยคุณตรวจหาโรคติดต่อ หรือเชื้อที่มันอาจจะก่อให้เกิดโรคได้ นั่นคือการตรวจด้วย PCR 14 ที่ตรวจหาเชื้อโรคได้มากถึง 14 ชนิด ตรวจง่าย ไม่เจ็บตัว สะดวก ผลตรวจแม่นยำ รวดเร็วตรงใจหรือจะเลือกแบบทราบผลในวันเดียวกับที่ตรวจเลยก็ได้เหมือนกัน ทั้งนี้หากคุณมีงบที่ไม่มาก แต่อยากตรวจมาก การเลือกตรวจด้วย PCR 14 ก็ถือว่าตอบโจทย์ เลือกตรวจตามที่คุณสะดวกได้ทันที

วิธีที่ถูกต้อง!!! แก้ปัญหาได้ ปลอดภัย หมดห่วงทุกโรคร้าย แค่คุณมาหาหมอที่ พัลซ์ คลินิก เรายินดีให้คำปรึกษา เพราะสุขภาพที่ดี รอไม่ได้ ด้วยความห่วงใยจากเรา

 

สรุปง่าย ๆ เกี่ยวกับการตรวจ PCR


  • STD PCR Multiplex ของเราเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในการตรวจจับการติดเชื้อหลายรายการทั้งหมดในการทดสอบครั้งเดียว
  • STD PCR Multiplex ของเรารวม 28 การติดเชื้อ ในจุดต่าง ๆ ;
    • ตรวจหนองในเทียม ซิฟิลิส แผลริมอ่อน, ฝีมะม่วง (LGV)
    • ตรวจเริมชนิดที่ 1 (HSV- 1), เริมชนิดที่ 2 (HSV-2)
    • ตรวจเชื้อทริโคโมแนส วากินลิส
    • ตรวจเชื้อไมโคพลาสมา ( Mycuplasma hominis, Mycoplasma genitalium, Ureaplasma Parvum, Ureaplasma urealyticum)
    • ตรวจไซโตเมกะโลไวรัส  (CMV)
    • ตรวจไวรัสวาริเซลลา-ซอสเตอร์ (VZV)
    • ตรวจหาเชื้อราต่างๆ (Candida albicans, Candida dubliniensis, Candida glabrata, Candida krusei, Candida luitaniae, Candida parapsilosis, Candida tropicalis)
    • Atopobium vaginae, Bacterial vaginosis (associated bacteria 2), Bacteroides fragilis, Gardnerella vaginalis, Lactobacillus, Megasphaera Type 1, Mobiluncus
  • STD PCR Multiplex ของเราสามารถตรวจจับการติดเชื้อติดต่อทางเพศในบริเวณต่าง ๆ ได้;
    • ลำคอและช่องปาก
    • ท่อปัสสาวะชายและหญิง
    • บริเวณทวารหนัก
    • ช่องคลอดและปากมดลูก
    • อสุจิ
    • รอยโรคบนผิวหนัง
  • หากคุณต้องการตรวจหาการติดเชื้อจากช่องปัสสาวะ คุณสามารถเลือกตรวจ PCR 28 ชนิดจากปัสสาวะได้โดยตรงเลย
  • หากคุณเคยทำออรัลเซ็กซ์ คุณสามารถเลือกตรวจ PCR 28 ชนิดจากลำคอได้เลย
  • หากคุณเอ็นจอยการใช้ประตูหลัง ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิง, ผู้ชาย, เกย์ หรือรับออริจิ คุณสามารถเลือกตรวจ PCR 28 ชนิดทางทวารหนักได้เลย
  • หากคุณมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด คุณสามารถเลือกตรวจ PCR 28 ชนิดจากช่องคลอดได้เลย

 

รอผลการตรวจนานแค่ไหม?


สำหรับการตรวจ PCR จะตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) 28 การติดเชื้อ ขั้นตอนการทดสอบ PCR ใช้เวลา 7 วัน แต่เราสามารถเร่งกระบวนการของพวกเขาเพื่อให้เราทราบผลเร็วขึ้นจากวันเดียวกันได้ หรือได้ผลวันถัดไป และผล 3 วัน โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผลตรวจจะถูกส่งไปยังที่อยู่อีเมลของคุณที่ให้ไว้กับคลินิกของเรา หรือคุณสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ทางออนไลน์ได้ที่ PULSE ONLINE PORTAL หรือ E-DOC บนมือถือ

**สำหรับรายการตรวจ PCR28 ชนิดรอผลในวันเดียวกัน ต้องส่งตัวอย่างส่งตรวจที่คลินิก ก่อนบ่าย 3 โมงเย็นของวันนั้น**

ก่อนเข้ารับการตรวจ คุณสามารถทานน้ำและอาหารได้ตามปกติก่อนรับการตรวจได้เลย ไม่ต้องงดอาหารแต่อย่างใด

ถ้าคุณกำลังมองหาคลินิกเฉพาะทางด้านสุขภาพทางเพศที่พร้อมดูแล เชื่อใจได้ และรู้ใจคุณ มาหาเราได้เลยที่ P U L S E Clinic

แอดไลน์ @pulseclinic เพื่อรับคำปรึกษาออนไลน์

 

อาการคันน้องสาว มีกี่แบบ?


หากคุณมีอาการคันภายในจุดซ่อนเร้น หรือคันจิมิแบบไม่ไหวแล้ว มันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่

 

 

คันแต่ไม่ติดเชื้อ

เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังของอวัยวะเพศ สามารถเกิดขึ้นจากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น

  • เกิดการเสียดสีระหว่างกางเกงในกับจุดซ่อนเร้น เพราะว่า มันรัดแน่น คับหอยเกินไป ทำให้เกิดการอับชื้นได้
  • คันจากการแพ้ หรือเกิดการระคายเคืองจากการใช้สารเคมี เช่น แพ้ผ้าอนามัยที่มีน้ำหอมผสม การสบู่ล้างจุดซ่อนเร้น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม
  • โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ

คันที่เกิดการติดเชื้อ

คันจิมิ หรือคันน้องสาวในลักษณะนี้ อาการจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ตามเชื้อที่ติดมา เช่น

  • คันจากเชื้อรา ตกขาวจะมีลักษณะคล้ายโยเกิร์ต และมีอาการคัน เป็นต้น
  • คันจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตกขาว มีกลิ่นเหม็น แสบร้อน คัน อาจมีตุ่ม ๆ ขึ้นมา
  • คันจากเชื้อแบคทีเรีย จะเห็นได้ว่า ตกขาว มีกลิ่นเหม็น แสบคัน ปวดร้อน

คันที่เกิดจากโรคที่คุณเป็นอยู่ก่อนแล้ว 

คันจากโรคบางชนิดที่คุณเป็นอยู่ อาทิ โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง เช่น สะเก็ดเงิน หรือผื่นคัน สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการคันได้ โดยอาการคันอาจเป็นเพียงอาการหนึ่งของโรคเท่านั้น แต่ทางที่ดีก็ควรมาพบแพทย์ หรือปรึกษา พัลซ์ คลินิก ได้ทันที

 

วิธีแก้อาการคันน้องสาว


ถ้ามันคันจิมิมาก คันน้องสาวจนแทบจะทนไม่ไหว แก้คันยังไงดี เราอยากให้คุณเข้าใจว่า คุณสามารถรักษาอาการคันเหล่านี้ได้นะ แบบลองดูแลด้วยตัวคุณเองก่อนก็ได้ ไม่แย่ ๆ ลองทำที่บ้าน มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ถ้าแบบ เอ้า ไม่หายสักที มาพบเราได้เลยค่ะ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและดูแลสุขอนามัยง่าย ๆ ดังนี้

 

ล้างจุดซ่อนเร้นอย่างอ่อนโยน: อยากมีหอยหอม ๆ ไม่คัน ไม่แสบ ง่ายมาก ๆ ใช่แค่ "น้ำเปล่า" ทำความสะอาดก็พอละ หรือใช้สบู่สูตรอ่อนโยน ล้างแค่ข้างนอกเท่านั้น ฟังนะ ห้ามสวนล้างเด็ดขาด สำคัญเลยนะคะ ห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดเกินวันละ 1 ครั้ง และควรหยุดใช้เมื่อรู้สึกคัน มันอาจทำให้ช่องคลอดแห้ง และเสียสมดุลด้วยแหละ
 
สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเซ็กส์: สำคัญมาก ๆ คุณควรใส่ถุงยางทุกครั้ง และแนะนำให้ปัสสาวะทุกครั้งเลย ทั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ และควรล้างอวัยวะเพศภายนอกทุกครั้งหลังการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเสร็จกิจแล้ว ห้ามนอนเลยเด็ดขาด แว๊บมาล้างน้องสาวสักหน่อยนะ
 
ห้ามเกา แม้ว่าจะคันแค่ไหนก็ตาม: มันอาจจะดูยุ่งยากมาก ๆ ในการหักห้ามใจไม่ให้เกา แต่ยิ่งเกา จิมิจะยิ่งพังนะ เพราะมันอาจเกิดการอักเสบหรือแผลเป็นตามมานะ

ใส่ชุดชั้นในที่โปร่ง ระบายอากาศได้ดี: ชุดชั้นในที่ใส่ ควรระบายอากาศได้ดี หรือผลิตจากผ้าฝ้าย เพื่อช่วยลดความอับชื้นและการเสียดสี รวมทั้งควรซักชุดชั้นใน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน หากเป็นไปได้ควรแยกซักชุดชั้นใน

เลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยชนิดสอด: สาว ๆ ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดบ่อย ๆ ไม่ควรใส่นานเกินไป มันอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้นะ

 

คันน้องสาว คันจิมิแบบไหน ควรพบแพทย์


หากคุณมีอาการคันจิมิ ไม่ว่าภายนอกหรือภายใน อาการเหล่านี้สามารถหายเองได้ไหม เราอยากจะบอกว่าอาการคันจิมิแบบนี้ ไม่ควรปล่อยให้หายเองเสมอไปค่ะ หากมีอาการดังนี้ ต้องรีบพบแพทย์ทันทีนะ

  1. มีแผลบริเวณช่องคลอด มีอาการปวดแสบ ปวดร้อน บวม มันอาจเกิดจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อ
  2. ปัสสาวะแล้วรู้สึกปวด แสบ ทรมาน เวลาปัสสาวะ
  3. ตกขาวผิดปกติ ตกขาวมีสีเขียว สีเหลือง ตกขาวมีกลิ่น เป็นก้อน ๆ ในปริมาณมาก อาการแบบนี้ควรตรวจหาสาเหตุ เช่น การติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย
  4. มีอาการคันรุนแรง อย่างเช่น อวัยวะเพศบวมแดงมาก มีผิวเป็นขุย จนอาจมีรอยแตกของผิวหนัง และชอบคันตอนกลางคืน จนนอนไม่หลับ
  5. มีอาการเจ็บหรือคัดตึงบริเวณจุดซ่อนเร้น
  6. รู้สึกเจ็บเวลามีเซ็กส์ ไม่สบายตัว หรือมีไข้ร่วมด้วย

หากสาว ๆ อาการไม่ดีขึ้นเลย อย่าควรนิ่งนอนใจ ควรมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ มาพบเราที่ พัลซ์ คลินิก เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุ และรับการรักษาเพื่อลดความเสี่ยง ลดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ และผลการตรวจของคุณเป็นความลับ 100%

 

คัน ๆ แบบนี้ มีอาหารอะไรบ้าง ที่เราอยากแนะนำ


คันจิมิมาก คันน้องสาวแบบสุด ๆ ทานอะไรดี ช่วยให้หายอาการคันได้ ได้แก่ 

  1. โยเกิร์ต มีแบคทีเรียดี แลคโตบาซิลลัส ช่วยลดการเกิดเชื้อรา เพื่อช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในช่องคลอด
  2. ผักสด และผลไม้ นั่นเพราะ มีวิตามินซีสูง ดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันไม่ให้ช่องคลอดแห้ง อันเป็นสาเหตุของอาการคันจิมิ และช่วยลดการอักเสบได้
  3. กระเทียม มีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์สูง และช่วยต้านเชื้อรา ช่วยในการรักษาอาการน้องสาวติดเชื้อราได้
  4. แครนเบอร์รี ช่วยฆ่าเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และสามารถช่วยลดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดได้ด้วย
  5. เมล็ดธัญพืชและถั่วต่าง ๆ เพราะมีวิตามินอีสูงมาก นอกจากช่วยไม่ให้ช่องคลอดแห้งแล้ว แร่ธาตุต่าง ๆ จากธัญพืช ยังช่วยให้ประจำเดือนของสาว ๆ มาตามปกติอีกด้วย
  6. ปลาแซลมอน เพราะว่าในเนื้อปลา มีโอเมก้า 3 สูงมาก ช่วยลดการอักเสบได้

อวัยวะเพศของผู้หญิงเรา เรียกได้ว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย หากคุณกังวลใจ หรือมีอาการผิดปกติใด ๆ ก็ตาม ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาการผิดปกติเหล่านี้ อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตามมาอีกมากมาย ตรวจก่อน รู้ก่อน รักษาทันเวลา ปลอดภัย พร้อมทั้งมีสุขภาพกายและใจดี ๆ ไปกับเราดีกว่าค่ะ

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ info.bkk@pulse-clinic.com หรือคุยกับเราได้ที่ช่องทางเหล่านี้

 +66 65 237 1936    @PULSEClinic   PulseClinic

พัลซ์คลินิก เป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพทางเพศชั้นเลิศ ให้คำปรึกษา ตรวจและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ป้องกันเอชไอวีด้วยยาเพร็พ และยาต้านฉุกเฉินและรักษาเอชไอวี เรายินดีพร้อมให้ความช่วยเหลือ

จองคิวตรวจวันนี้

Location

Loading...

WHAT ELSE DO YOU NEED TO KNOW

This site uses cookies to improve your experience. If you continue browsing, you accept our use of cookies. You can review our privacy & policy to find out more about the cookies we use.